กฎระเบียบเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกบนท้องถนนของไทย

274 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กฎระเบียบเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกบนท้องถนนของไทย

      ท้องถนนของไทยเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ โดยรถบรรทุกมีบทบาทสำคัญในการขนส่งสินค้าและเป็นหัวใจของระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การขับรถบรรทุกไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากต้องเผชิญกับการจราจรที่แออัดและกฎระเบียบที่เข้มงวด ผู้ขับขี่จำเป็นต้องทราบและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการใช้โปรแกรมขนส่งสินค้า โปรแกรมขนส่ง TMS (Transportation Management System) และโปรแกรม TMS ที่ช่วยจัดการการขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย บทความนี้จะเป็นเครื่องมือนำทางให้กับผู้ขับขี่รถบรรทุกในการเข้าใจและปฏิบัติตามกฎจราจรเพื่อการขนส่งสินค้าที่ราบรื่นและปลอดภัยบนท้องถนนไทย

รู้กฎหมายไว้ก่อนออกเดินทาง
การขนย้ายสิ่งของโดยใช้รถบรรทุก 4 ล้อขึ้นไปในประเทศไทย นั้นถูกควบคุมด้วยกฎหมายและระเบียบการต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนถนน และคุ้มครองชีวิต ทรัพย์สินของผู้จ้างงานและผู้ขับขี่ เราจะพิจารณากฎหมายหลักที่นำมาใช้ในการกำหนดมาตรฐานและข้อกำหนดเหล่านี้:

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 
เป็นกฎหมายหลักที่ควบคุมการใช้รถบนท้องถนน ในส่วนของรถบรรทุกที่ใช้สำหรับการขนย้ายสิ่งของ มีข้อกำหนดหลักๆ ดังนี้:

  • มาตรา 6: ระบุว่ารถที่ใช้บนท้องถนนต้องมีสภาพที่มั่นคงแข็งแรง ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัย รถที่ใช้การต้องมีเครื่องยนต์ เครื่องอุปกรณ์ และส่วนควบคุมที่ครบถ้วนและทำงานได้ดี
  • มาตรา 7: กำหนดให้รถทุกคันต้องติดแผ่นป้ายทะเบียน และป้ายประจำรถที่ถูกต้องตามกฎหมายฃ
  • มาตรา 10: ห้ามรถที่เครื่องยนต์สร้างมลภาวะเช่น ก๊าซ ฝุ่น ควัน เกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด
  • มาตรา 20: ผู้ขับขี่รถบรรทุกต้องจัดการป้องกันไม่ให้สิ่งของที่บรรทุกตกหล่น รั่วไหล หรือปลิวไปจากรถที่อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรืออันตราย
  • มาตรา 77: ห้ามรถทุกชนิดลากรถหรือจูงรถอื่นไปในทางเกินหนึ่งคัน ยกเว้นได้รับอนุญาต
  • มาตรา 31/1: ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวและต้องแสดงต่อเจ้าหน้าที่จราจรเมื่อขอตรวจ

ประเภทใบอนุญาตขับขี่สำหรับรถบรรทุก
ใบอนุญาตขับขี่สำหรับรถบรรทุกขนย้ายสิ่งของแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก:

  • ใบอนุญาตขับรถทุกประเภท บ.2: สำหรับการขนส่งส่วนบุคคล เช่น รถบัส, รถบรรทุก 6-10 ล้อ (ป้ายทะเบียนพื้นสีขาว)
  • ใบอนุญาตขับรถทุกประเภท ท.2: สำหรับการขนส่งทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการค้า ธุรกิจส่วนตัว หรือรับจ้าง รวมถึงการขนส่งคน สิ่งของ หรือประกอบธุรกิจการขนส่ง เช่น รถบรรทุกสาธารณะ รถบัส, รถบรรทุก 6-10 ล้อ (ป้ายทะเบียนพื้นสีเหลือง)

ลดปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพมหานคร
รัฐบาลได้กำหนดนโยบายและกฎหมายเพื่อจำกัดเวลาการใช้ถนนของรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถพ่วงที่ใช้ในการขนส่งสินค้าต่างๆ มาตรการนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อควบคุมและลดผลกระทบต่อการจราจรในเขตพื้นที่หลักของเมือง โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการจำกัดเวลาการวิ่งของรถบรรทุกดังนี้:

  • รถบรรทุกที่บรรทุกก๊าซและวัตถุไวไฟรวมถึงรถพ่วงขนาด 6 ล้อขึ้นไป ถูกจำกัดไม่ให้เดินรถในเขตกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 06.00 ถึง 22.00 น. ทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบต่อการจราจรในช่วงเวลาที่มีปริมาณการใช้ถนนสูง
  • รถบรรทุกขนาด 6 ล้อขึ้นไป มีการห้ามไม่ให้วิ่งบนถนนในเวลา 06.00-09.00 น. และ 16.00-20.00 น. ยกเว้นในวันหยุดราชการ เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาการเดินทางไปทำงานและเลิกงานของประชาชน
  • รถบรรทุกขนาด 10 ล้อขึ้นไป จะต้องไม่เดินรถในช่วงเวลา 06.00-10.00 น. และ 15.00-21.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ เพื่อเปิดโอกาสให้การจราจรในเมืองสามารถไหลลื่นมากขึ้นในช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ใช้ถนน
  • รถบรรทุกประเภทอื่นๆ เช่น รถที่บรรทุกซุงไม้หรือเสาเข็ม ถูกจำกัดไม่ให้ใช้ถนนในเวลา 06.00-21.00 น. เพื่อลดการกีดขวางและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับการจราจร
  • รถกระบะบรรทุกที่น้ำหนักไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม สามารถใช้ถนนในเขตกรุงเทพมหานครได้โดยไม่มีการจำกัดเวลา โดยมีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดของรถ คือความสูงไม่เกิน 3.00 เมตรจากพื้นถนน และส่วนท้ายของรถไม่เกิน 2.50 เมตรจากพื้นที่สูงสุด โดยส่วนหน้าของรถไม่ควรยื่นเกินหน้ารถยนต์เก๋ง
  • รถบรรทุกขนาดใหญ่ ถูกห้ามไม่ให้เดินทางในพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 113 ตารางกิโลเมตร ในช่วงเวลา 06.00 ถึง 21.00 น.
  • รถบรรทุกสารเคมี มีข้อจำกัดเวลาเข้มงวดยิ่งขึ้น ห้ามใช้ถนนในเวลา 06.00-10.00 น. และ 15.00-22.00 น. เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร

น้ำหนักรถบรรทุกที่ใช้ในการขนส่งสินค้าบนถนน
ตามกฎหมายและประกาศที่กำหนดขึ้นเพื่อควบคุมน้ำหนักรถบรรทุกที่ใช้ในการขนส่งสินค้าบนถนน เพื่อลดการสึกหรอของพื้นผิวถนนและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานถนนสำหรับผู้ใช้ทุกฝ่าย ระเบียบดังกล่าวได้กำหนดพิกัดน้ำหนักสูงสุดที่รถบรรทุกแต่ละประเภทสามารถบรรทุกได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  • รถบรรทุก 4 ล้อ: กำหนดให้รถบรรทุกประเภทนี้สามารถบรรทุกสินค้าได้ไม่เกิน 9.5 ตัน เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดและความสามารถของรถในการบรรทุกและการควบคุมรถให้ปลอดภัยขณะเดินทางบนถนน
  • รถบรรทุก 6 ล้อ: สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางนี้ มีข้อจำกัดให้สามารถบรรทุกสินค้าได้ไม่เกิน 15 ตัน ซึ่งเป็นน้ำหนักระดับกลางที่ถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานบนถนนทั่วไป พร้อมกับการรักษาระดับความปลอดภัย
  • รถบรรทุก 10 ล้อ: รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ กำหนดให้บรรทุกไม่เกิน 25 ตัน เพื่อป้องกันความเสียหายต่อพื้นผิวถนนและเพิ่มความปลอดภัยในการจราจร
  • รถพ่วง 6 เพลา 22 ล้อ: เป็นรถขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มนี้ มีการกำหนดน้ำหนักบรรทุกสูงสุดที่ 50.5 ตัน เพื่อให้สามารถขนส่งสินค้าจำนวนมากในครั้งเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงคำนึงถึงความปลอดภัยและการรักษาสภาพถนน

เพิ่มเติม การขนส่งสินค้าทุกครั้งจำเป็นต้องมีการใช้ผ้าคลุมที่มีความแน่นหนาพร้อมด้วยอุปกรณ์ล็อคเพื่อรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อใช้โปรแกรมขนส่งสินค้าหรือโปรแกรม TMS (Transportation Management System) ในการจัดการการขนส่ง ผ้าคลุมต้องเป็นสีทึบ ยึดแน่นกับตัวรถเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้ารั่วไหลหรือตกหล่นที่อาจก่อให้เกิดอันตราย การฝ่าฝืนกฎนี้อาจนำไปสู่การปรับสูงสุดถึง 50,000 บาท และหากเกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น ผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

พ.ร.บ.การขนส่งทางบกยังกำหนดให้รถบรรทุกที่ขนส่งสินค้าจากโปรแกรมขนส่ง TMS และมีเพลาล้อตั้งแต่ 4 ล้อขึ้นไปจนถึง 10 ล้อต้องติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงในตำแหน่งที่ถูกต้องเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในเวลากลางคืน การไม่ปฏิบัติตามกฎนี้อาจนำไปสู่โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท ทั้งหมดนี้เองคือข้อมูลที่ช่วยให้เพื่อนๆเข้าใจกฏระเบียบที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าในประเทศไทย และหากคุณมีตัวช่วยที่ดีเช่น โปรแกรม TMS จาก Logis Boy มันจะช่วยให้การจัดการของคุณง่ายขึ้น-มีประสิทธิภาพ และได้ต้นทุนที่แข่งขันในตลาดปัจจุบัน

Logis Boy ไม่เพียงแค่พัฒนาโปรแกรมขนส่ง แต่ยังเป็นผู้ช่วยที่จะคอยแก้ไขปัญหา เป็นตัวช่วยที่ร่วมสร้างความเติบโต และเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจในความท้าทายของธุรกิจขนส่ง Logis Boy เหมาะสำหรับทุกขนาดของธุรกิจ จากธุรกิจขนาดเล็กจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการที่เชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ

Logis Boy ช่วยให้ธุรกิจของคุณ
  • ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น : ลดต้นทุน เพิ่มกำไร และประหยัดเวลา
  • ความสามารถในการแข่งขัน : ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • การเติบโตอย่างยั่งยืน : สนับสนุนการพัฒนาและการขยายขอบเขตธุรกิจของคุณด้วยระบบ
  • เพื่อลดการพึ่งพาประสบการณ์ส่วนบุคคล


Logis Boy ยืนอยู่เคียงข้างคุณเพื่อปลดล็อคศักยภาพของธุรกิจขนส่ง สร้างโอกาสในการเติบโตและเอาชนะคู่แข่ง พร้อมเปิดประตูสู่การขนส่งยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

Logis Boy ตัวช่วยโปรแกรมขนส่ง TMS อัจฉริยะที่จะพัฒนาธุรกิจขนส่งของคุณ


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้