Software แบบไหนที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ
473 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น หลายๆ บริษัทเริ่มมองหาระบบที่รองรับกับการขยายตัวทางธุรกิจของตนเอง ในช่วงระยะแรกของการทำธุรกิจคงปฏิเสธไม่ได้ว่า วิธีที่บริษัทส่วนใหญ่ใช้ในการทำงาน คือ การ Manual และการใช้แรงงานคนเป็นหลัก แต่เมื่อบริษัทขยายตัวขึ้น มีข้อมูลเพิ่มมากขึ้น หากบริษัท ยังคงใช้วิธีการแบบเดิม จะทำให้เกิดโอกาสผิดพลาดได้สูง ส่งผลกระทบให้เกิดช่องโหว่อันร้ายแรงที่ส่งผลเสียต่อธุรกิจ ดังนั้น การที่เราต้องใช้แรงงานคนหรือการผูกองค์ความรู้ไว้กับใครคนใดคนหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญจากการที่ทำงานในส่วนนั้นโดยตรงมาเป็นระยะเวลานาน ถือเป็นการปิดโอกาสการเติบโตทางธุรกิจของตนอีกทางหนึ่ง เพราะเมื่อคุณอาศัยองค์ความรู้ของใครคนใดคนหนึ่งในการดำเนินงาน งานของคุณอาจจะเดินได้ช้า และรวมถึงไม่สามารถกระจายงานนั้นๆ ไปให้บุคคลอื่นได้ และถ้าหากขาดเขาคนนั้นขึ้นมาอาจส่งผลกระทบมาให้กับบริษัทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่สามารถดำเนินการต่อได้อย่างราบรื่น
หากมีระบบที่สามารถเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ ซึ่งเป็นระบบที่สามารถจัดการข้อมูลได้อย่างครอบคลุมทุกขั้นตอนการดำเนินงาน จะเป็นโอกาสในการเพิ่มการเติบโตทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องอาศัยใครคนใดคนหนึ่งที่มีความชำนาญในการทำงานส่วนนั้น อีกทั้งยังสามารถเปิดโอกาสให้ใครก็ได้เข้ามาทำงานแทน
การลงทุนกับระบบ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่บริษัทส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะมีความคุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว ไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานที่มีประสบการณ์สูงๆ หรือพนักงานคนใดคนหนึ่งตลอด อีกทั้งยังสามารถใช้นักศึกษาจบใหม่มาทำงานแทนในส่วนนี้ได้ จึงเป็นการลดต้นทุนที่มีความคุ้มค่าสูง เมื่อเทียบกับการเติบโตของบริษัทในอนาคต
เมื่อลองศึกษาระบบต่างๆ ในตลาดแล้ว จะพบว่า มีหลายโปรแกรมที่เป็นโปรแกรมสำเร็จรูป พร้อมใช้งานมากมาย แต่ละโปรแกรมก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ซึ่งข้อดีของการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปคือ พร้อมใช้งาน ลงทุนน้อย แต่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ รองรับกับการทำงานทั้งหมดของแต่ละธุรกิจ หากโปรแกรมสำเร็จรูปบางเจ้าที่ไม่สามารถปรับแต่งได้ ก็จำเป็นจะต้องยอมรับและปรับวิธีการทำงานของหน้างานให้เข้ากับระบบ แต่โปรแกรมสำเร็จรูปบางเจ้าก็สามารถปรับแต่งได้ ส่งผลให้ไม่ต้องปรับวิธีการทำงานให้รองรับกับระบบ เพราะสามารถปรับระบบให้รองรับกับการทำงานของหน้างานได้ อย่างเช่นระบบของโลจิสบอย
หากขั้นตอนการทำงานของธุรกิจมีความซับซ้อน เป็นข้อมูลเฉพาะ ต้องการออกแบบเพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานในปัจจุบัน และเพื่อต่อยอดในอนาคต การลงทุนในระบบที่ออกแบบขึ้นเพื่อธุรกิจของคุณ จึงมีความคุ้มค่ามากกว่าการใช้ระบบสำเร็จรูป และตอบโจทย์การทำงานมากกว่า เนื่องจากการขึ้นระบบใหม่ จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนาอย่างน้อย 2-6 เดือนขึ้นอยู่กับ Scope ของงาน ดังนั้นการเลือกผู้พัฒนาระบบที่มีความเชี่ยวชาญและมีความเข้าใจในรูปแบบของธุรกิจของคุณจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากลงทุนไปแล้ว แต่พบว่าระบบไม่ตอบโจทย์ ผู้พัฒนาระบบไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจทำให้คุณต้องเสียทั้งเงินและเวลาในการพัฒนา รวมถึงเสียความรู้สึกในภายหลัง
หากคุณกำลังมองหาระบบ ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม ขอฝากโลจิสบอยไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เรามีความพร้อมในการพัฒนา และมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบที่หลากหลาย หากเปิดใจลองคุยกัน เราสัญญาว่าจะทำให้เวลาที่คุณเสียไปคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแน่นอน
